วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเมือง

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเมือง


วัดป่าเลไลยก์

เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองอยู่ทางฝั่งตะวันตกของลำน้ำสุพรรณห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 4 กิโลเมตร ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าวัดป่า ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาเตทรงให้มอญน้อยมาบูรณะวัดป่าเลไลก์ ภายหลังปี พ.ศ. 1724 เล็กน้อย หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลก์ ศิลปสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท) มีนักปราชญ์หลายท่านว่า เดิมคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งอย่างพระพนัญเชิงสมัยแรกต่อมาได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ และทำเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ภายในองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย





หอคอยบรรหาร-แจ่มใส และสวนเฉลิมภัทรราชินี

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี บนถนนนางพิม ตำบลท่าพี่เลี้ยง หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เป็นหอคอยแห่งแรกและสูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 123.25 เมตร มีชั้น
สำหรับชมวิวในระดับสูงสุด 78.75 บนหอได้มีการติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้รอบด้านมีร้านขายของที่ระลึกและอาหารว่าง มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองสุพรรบุรีทั้งด้านประวัติศาสตร์ วรรณคดี ศิลปวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และเรื่องราวน่ารู้ของของจังหวัดสุพรรณบุรีไว้ทั้งหมดเปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์ตามเวลาดังนี้ วันอังคาร-ศุกร์เวลา 10.00-19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด นักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.30 น. หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เวลา 10.00-18.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท หลังเวลา 18.00 น.ผู้ใหญ่ 40 บาท รายละเอียดเพิ่ม
เติมติดต่อ โทร. (035) 522721 และ 524063-4


วัดพระนอนและอุทยานมัจฉา


ตั้งอยู่ที่ตำบลพิหารแดง อำเภอเมือง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 3 กม. เป็นวัดเก่าแก่ สมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ ที่ปรักหักพังแล้วและได้บูรณะขึ้นใหม่ ในสมัยปัจจุบัน มีรูปปั้นพระนอน ในลักษณะ นอนหงาย สร้างเท่า ขนาดคนจริง สมัยโบราณ ลักษณะเหมือนพระนอน ที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย ที่วัดพระนอนนี้ มีแม่น้ำ ท่าจีน ไหลผ่าน ท่านเจ้าอาวาส ได้เลี้ยงปลาไว้ ตั้งแต่ปี 2516 มีทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาตะโกก ปลายี่สก จำนวนนับแสนตัว



ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง


อยู่ห่างฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี (แม่น้ำท่าจีน) ห่างจากตัวสะพานไปครึ่งกิโลเมตร เดิมตัวศาลเป็น ศาลไม้ทรงไทย มีเทวรูปพระอิศวร และพระนารายณ์ สลักด้วยหินสีเขียว สององค์ ปัจจุบัน ศาลเป็นรูปเก๋ง จีน ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ เป็นที่เคารพ ของชาวเมืองเป็นอย่างยิ่ง มีงานประจำปีกระจาดทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 ของจีน



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย

ตั้งอยู่ในบริเวณ ศาลากลางจังหวัดถนนพระพันวษา เป็นอาคารเรือนไทยประยุกต์สองชั้นจัดแสดงเรื่องราว เกี่ยวกับ การทำนา ประเพณีและ วิถีชีวิตของชาวนาไทย นอกจากนี้ ยังจัดแสดงสิ่งของและอุปกรณ์ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงใช้ทำนาสาธิต เช่น เคียวด้ามทอง รวงข้าวมงคง 9 รวงแรกที่ทรงเกี่ยวเป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์
และอังคาร เวลา 9.00-16.00 น
.






มะขามยักษ์วัดแค

วัดแคเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดีเรื่อง“ขุนช้างขุนแผน” อยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ไปทางเหนือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่วัดโคนต้นโดยรอบได้ประมาณ 10 เมตร เชื่อกันว่าขุนแผนได้เรียนวิชาเสกใบมะขาม จากต้นมะขามต้นนี้ ให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากท่านอาจารย์คงไว้โจมตีข้าศึก นอกจากนี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้อีกด้วย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสวัดแคเมื่อ พ.ศ. 2447 วัดนี้มีโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ได้แก่ พระพุทธบาทสี่รอย ทำด้วยทองเหลืองกว้าง 1.40 เมตร ยาว 2.80 เมตร สร้างซ้อนกันไว้ใน รอยใหญ่ นอกจากนี้ก็มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบศิลปะรัตนโกสินทร์ จีวรและอังสะเป็นดอกพิกุลงดงามมาก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าพระประธาน สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ก็มีเช่น ระฆังทองเหลือง หม้อต้ม กรักทองเหลือง ตู้ใส่หนังสือที่พระบาทสมเด็จพระ-จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถวายเมื่อปี 2412





ศูนย์หัตถกรรมภาคตะวันตก

ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนกำยาน ริมถนนมาลัยแมน ห่างจากตัวเมืองไปทางอำเภออู่ทอง ประมาณ 8 กิโลเมตร ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ด้านอุตสาหกรรมในครอบครัว และหัตถกรรมในเขตพื้นที่ 14 จังหวัดภาคตะวันตก มีอาคารแสดงนิทรรศการผลงานผลิตภัณฑ์หัตถกรรมดีเด่น สวยงามประเภทต่าง ๆ รวมทั้งจัดจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปในราคาย่อมเยา เปิดให้ชมทุกวันในเวลาราชการ โทร 035-511622

ไม่มีความคิดเห็น: