สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอสามชุก


ตลาดสามชุกเป็นแหล่งค้าขายสินค้าทางน้ำที่สำคัญในสมัยโบราณ ตัวอำเภอยังเป็นตลาดเก่าที่สร้างด้วยไม้เรียงติดกัน อยู่ริมฝังตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน วิถีีชีวิตของผู้คนในชุมชน, สถาปัตยกรรมโบราณเชิงชายไม้แกะสลัก อาคารพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงค์ จีนารักษ์ร้านขายยาจีน-ไทยโบราณ ร้านกาแฟโบราณ และร้านถ่ายรูปโบราณยังคงมีสภาพและรูปแบบเดิมเหมาะแก่การอนุรักษ์และรักษาให้เป็นบันทึกของชีวิตริมแม่น้ำท่าจีน อีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นแหล่งรวมสินค้าโดยเฉพาะขนมไทยโบราณ กาแฟสด และอาหารสด จำพวกปลาแม่น้ำและพืชพักจากชาวบ้าน ระยะทางจากตัวจังหวัดถึงอำเภอสามชุกประมาณ 35 กิโลเมตร ห่างจากถนนสุพรรณ-ชัยนาท ประมาณ 200 เมตร


พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๗ ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์ ได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มแม่น้ำท่าจีน ซึ่งสัมพันธ์กับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองสามชุก ตลาดสามชุก สังคม และสภาพวิถีชีวิตของผู้คนสามชุก มีการแสดงประวัติเจ้าของอาคารพิพิธภัณฑ์ คือ ท่านขุนจำนงจีนารักษ์ และกล่าวถึงโครงการสามชุกเมืองน่าอยู่ มีการจัดแสดงผลงานศิลปะผ่านภาพวาดและลายเส้นเกี่ยวกับสามชุกของนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อาคารพิพิธภัณฑ์หลังนี้เดิมเป็นบ้านของขุนจำนงจีนารักษ์ ตั้งอยู่ในตลาดสามชุก ซอย ๒ ลักษณะเป็นอาคารไม้สามชั้น สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ. ศ. ๒๔๕๙ อายุกว่า ๙๐ ปี มาแล้ว นางเคี่ยวยี่ จีนารักษ์ ทายาทคนปัจจุบันได้อนุญาตให้คณะกรรมการพัฒนาตลาดสามชุกปรับปรุงบ้านจัดทำพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ของท้องถิ่นและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน

บะหมี่สด เกี๊ยวสด "เจ๊กอ้าว"กาแฟโบราณ "เจ๊หมวยเล็ก"ปัจจุบันมีร้านอาหาร ขนมอร่อยๆ ของฝากที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมได้เลือกซื้อกันมากมายโดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์

อยู่ห่างจากจังหวัดประมาณ 34 กิโลเมตร เป็นบึงขนาดใหญ่มีเนื้อที่ 252 ไร่ มีถนนวนรอบบึง มีร้านอาหารและศาลาสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย การแข่งขันกีฬาทางน้ำ หรือจอดรถพักรับประทานอาหาร ด้วยอยู่ใกล้ถนนใหญ่ จากตัวจังหวัดสุพรรณถึงสี่แยกไฟแดงอำเภอสามชุก แล้วเลี้ยวขวาเพียง 100 เมตร

ตั้งอยู่ตำบลบ้านสระ ห่างจากอนุสรณ์ดอนเจดีย์ 7 ก.ม. ภายหลังสมเด็จพระนเรศวรมีชัยชนะ ในสงครามยุทธหัตถี และทราบข่าวพระพี่นาง พระสุพรรณกัลยาที่ทรงเป็น องค์ประกันอยู่ที่พม่า ถูกประหารชีวิตด้วยพระแสงของ พระเจ้านันทบุเรง เป็นการล้างแค้นที่พระมหาอุปราชา สิ้นพระชนม์ ด้วยพระแสงของ้าวของพระองค์ ดังนั้นจึงทรงสร้างวัดนี้ เพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่พระสุพรรณกัลยา มีโบราณสถานเก่าแก่ อุโบสถซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา กำแพงแก้ว และสระน้ำขนาดใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น